ลงทุนผิดพลาดจนชีวิตสโลว์ไลฟ์พัง: บทเรียนราคา 3 ล้านจากการสร้าง ADU และทางเลือกที่อยากรู้ให้เร็วกว่านี้
- Chayanid Yimchai
- Mar 29
- 1 min read
การมาจากครอบครัวธรรมดา ไม่ได้ร่ำรวย ทำให้มิ้งไม่เคยถูกสอนเรื่อง “การลงทุน” ตั้งแต่เด็ก โตมาก็มีเป้าหมายคือทำงานเก็บเงิน และหวังว่าสักวันหนึ่งจะมีรายได้แบบ passive income เหมือนที่ใครๆ พูดกัน
ตอนที่ตัดสินใจลงทุนในอสังหาฯ มิ้งคิดว่าการสร้าง ADU (Accessory Dwelling Unit) หรือบ้านหลังเล็กหลังบ้านในอเมริกา เป็นทางเลือกที่ดี เพราะคิดง่ายๆ ว่า “ปล่อยเช่า = มีรายได้ทุกเดือน”แต่ความจริงมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น...
❌ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
งบบานปลาย: ตอนแรกตั้งงบไว้ไม่ถึงล้านบาท (ประมาณ $65,000 USD) แต่สุดท้ายพุ่งไปถึง 3 ล้านบาท ($120,000 USD) เพราะค่าแรง, วัสดุ, และการเปลี่ยนแปลงระหว่างก่อสร้าง
ค่าใช้จ่ายแฝง: ไม่ได้คิดถึงค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่ตามมา เช่น
ภาษีที่ดินเพิ่มขึ้นทันที
ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าอินเทอร์เน็ต
ประกันภัยบ้านที่ต้องขยายความคุ้มครอง
ค่าซ่อมบำรุงยิบย่อย
ความเครียด: พอรายได้ที่คิดว่าจะเข้ามากลับไม่ได้ตามเป้าเพราะน้องหมาของเราเห่าเก่งมาก ไม่สามารถปล่อยเช่าบ้านได้ กลายเป็นภาระที่ทำให้ชีวิตไม่สงบ ไม่สโลว์ไลฟ์เหมือนเดิม
ไม่ตรงกับเป้าหมายชีวิต: มิ้งชอบชีวิตที่เรียบง่ายใกล้ธรรมชาติ แต่กลับพาตัวเองเข้าไปอยู่ใน ความเครียดโดยไม่รู้ตัว
แล้วถ้าเอาเงิน 3 ล้าน ไปลงทุนแบบอื่นล่ะ?
สมมติว่าเงินก้อนนี้ มิ้งเอาไปลงทุนใน REITs หรือ Real Estate Investment Trusts แทน
REIT คืออะไร?คือกองทุนที่นำเงินของนักลงทุนไปรวมกัน แล้วไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ เช่น โรงแรม ห้างสรรพสินค้า หรือศูนย์ดูแลผู้สูงอายุข้อดีคือ:
ลงทุนเริ่มต้นได้ด้วยเงินน้อย (หลักพันบาทก็เริ่มได้)
ไม่ต้องดูแลทรัพย์สินเอง
ได้รับเงินปันผลต่อเนื่อง เหมือนค่าเช่า
สภาพคล่องสูง ซื้อขายเหมือนหุ้น
ประสบการณ์ส่วนตัวกับ REIT
หลังจากผิดหวังกับ ADU ก็ได้เริ่มลงทุนใน REIT แบบค่อยเป็นค่อยไปซื้อเดือนละประมาณ $50 (ไม่ถึง 2,000 บาท)หุ้นลองซื้อคือ VICI Properties ซึ่งลงทุนให้เช่าที่ดินแก่คาสิโน โรงแรม และรีสอร์ตผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ประมาณ 5-6%
ลองจินตนาการดูว่า...ถ้าเอาเงิน 3 ล้านไปซื้อ REIT แทน ก็จะได้รับเงินปันผลประมาณ 150,000 – 180,000 บาท/ปียังไม่รวมราคาหุ้นที่อาจเพิ่มขึ้น และที่สำคัญคือ ไม่มีความเครียด แบบที่ต้องดูแลบ้าน หรือจัดการผู้เช่าเลย
บทสรุป: ก่อนจะลงทุนอะไร ต้องถามตัวเองว่า “เราต้องการอะไรจากชีวิต?”
เงินไม่ใช่คำตอบทุกอย่างการมี passive income คือเป้าหมายที่ดีแต่ถ้ามันแลกมากับสุขภาพจิต ความเครียด และชีวิตที่ไม่ใช่เรามันก็คุ้มกันหรือเปล่า?
วันนี้ไม่ได้บอกว่า REIT ดีกว่าบ้านเช่าเสมอไปแต่เราต้องศึกษาให้ดีรู้จักตัวเอง และเข้าใจความเสี่ยงของการลงทุนทุกประเภท
หวังว่าประสบการณ์ของมิ้งจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเดินทางไหนค่ะ
📌 คลิปวิดีโอที่แนบไว้ด้านล่างนี้คือเรื่องราวแบบละเอียด ที่มิ้งพูดจากใจ แชร์ทุกความรู้สึก และรายละเอียดการลงทุนให้ฟังแบบตรงไปตรงมา
Kommentare